ห้องเรียนภาษาญี่ปุ่น ภาษาญี่ปุ่นไม่ยากอย่างที่คิด

อ่าน 165,511 ครั้ง

แบ่งเป็น 1) ประโยคคำนามปฎิเสธ 2) ประโยคคุณศัพท์ปฎิเสธ 3)ประโยคกริยาปฎิเสธ
แต่เนื่องจากคำคุณศัพท์แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งผันในรูปปฏิเสธไม่เหมือนกัน จึงมีประโยคปฏิเสธ 4 แบบ ดังนี้

ประธาน +は +คำนาม +では ありません
ประธาน +は +คุณศัพท์-i +く +ありません
ประธาน +は +คุณศัพท์-na +では ありません
ประธาน +が +คำกริยา +ません

  1. あなた 大人 では ありません
    Anata wa otona dewa arimasen
    คุณไม่ใช่ผู้ใหญ่ครับ/ค่ะ
  2. 中国人 では ありません
    Watashi wa chuugokujin dewa arimasen
    ฉันไม่ใช่คนจีนครับ/ค่ะ
  3. 田中さん では ありません
    Watashi wa Tanakasan dewa arimasen
    ฉันไม่ใช่คุณทานากะครับ/ค่ะ
  4. 先生 では ありません
    Sensei dewa arimasen
    ไม่ใช่อาจารย์ครับ/ค่ะ

  1. ねずみ 大きく ありません
    Nezumi wa ookiku arimasen
    หนูไม่ใหญ่ครับ/ค่ะ
  2. 小さく ありません
    Zou wa chiisaku arimasen
    ช้างไม่เล็กครับ/ค่ะ
  3. きれい では ありません
    Umi wa kirei dewa arimasen
    ทะเลไม่สวยครับ/ค่ะ
  4. 親切 では ありません
    Kare wa shinsetsu dewa arimasen
    เขาไม่ใจดีครับ/ค่ะ

  1. 子供 泣きません
    Kodomo ga nakimasen
    เด็กไม่ร้องไห้ครับ/ค่ะ
  2. 友達 ません
    Tomodachi ga kimasen
    เพื่อนไม่มาครับ/ค่ะ
  3. 財布 ありません
    Saifu ga arimasen
    กระเป๋าสตางค์ไม่อยู่ครับ/ค่ะ
  4. 田中さん ません
    Tanakasan ga imasen
    คุณทานากะไม่อยู่ครับ/ค่ะ

คำอธิบาย

อ่านตรงนี้หน่อย

พบ 49 ความเห็นในบทเรียนนี้

ความเห็นที่ 21
ที่คุณ Benz สรุปใน 3 บรรทัดแรกของคำตอบที่ 17 ถูกต้องแล้วครับ

******************

คำคุณศัพท์กลุ่มที่ 2 อย่าจำว่า ตัด na แล้วเติม dewa arimasen เลย

คำคุณศัพท์กลุ่มที่ 2 ที่อยู่ในรูปจบประโยค จะเป็นรูป da-form เช่น koko wa shizuka da
ถ้าเป็นประโยคสุภาพ ก็เปลี่ยน da เป็น desu
ถ้าเป็นประโยคปฏิเสธอย่างสุภาพ ก็เปลี่ยน desu เป็น dewa arimasen

หากจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับการผันคำคุณศัพท์ ขอให้ดูในบทที่ 45 ดีกว่าครับ
webmaster 15 พค 55 14:22

ความเห็นที่ 22
ส่วนการที่จะสรุปง่ายๆ ตามคำตอบที่ 19 ว่า
คำคุณศัพท์ในรูปปฏิเสธนั้น
- ลงท้ายด้วย i ไม่มี では
- นอกนั้น มี では
ก็ไม่เห็นด้วยครับ ... มันเป็นเรื่องของการผันคำ อย่าเพิ่งด่วนสรุปครับ ค่อยๆเรียนไปก่อน..
webmaseter 15 พค 55 14:27

ความเห็นที่ 23
อย่างนี้นี่เอง แหม ญี่ปุ่นนี่ลึกซึ้งแฮะ คิดไม่ผิดจริงๆน้อที่เลือก ขอบคุณมากนะฮะ ผมเองก็ยังไม่ได้เรียนเรื่อง ฟอร์มรูป da เลย ก็เรียนไปเรื่อยๆ อื้มๆ น่าสนุกจริงๆน้า ถ้ามีเรื่องสงสัยแล้วจะมาถามอีกนะฮะ อิอิอิ [huhu]
Benz Domo 15 พค 55 19:55

ความเห็นที่ 24
ยินดีครับ ^^
webmaster 15 พค 55 22:33

ความเห็นที่ 25
ありがとー[smile]
9 ตค 55 11:10

ความเห็นที่ 26
ครับ ^^
webmaster 10 ตค 55 20:23

ความเห็นที่ 27
กำลังนั่งจดๆไปแล้วมันเกิดสงสัยเกี่ยวกับคำคุณศัพท์ขึ้นมา
ลองอ่านในบทที่ 17 18 กับเรื่องไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่นใบบทที่ 4 แล้ว
มันยังมึนๆ งงๆ ไม่เข้าใจอยู่

เท่าที่เข้าใจคือคำคุณศัพท์มีแค่ลงท้ายด้วย い กับ な 2 ประเภทใช่ไหมคะ?

ในเรื่องไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่นใบบทที่ 4 บอกว่าในเว็บนี้เรียก adj.い ว่า 'คำคุณศัพท์กลุ่มที่ 1' และ adj.な ว่า 'คำคุณศัพท์กลุ่มที่ 2'
ซึ่งในบทที่ 8 นี้มีรูปประโยคคือ
"「ประธาน」+ は +「คุณศัพท์กลุ่มที่ 1 + く」+ ありません
「ประธาน」+ は +「คุณศัพท์กลุ่มที่ 2」+ では ありません"
เพราะฉะนั้น กลุ่ม1 = い กลุ่ม2 = な
แล้วพวกคำคุณศัพท์ที่ไม่ได้ลงท้ายด้วย い กับ な อย่าง しんせつ ล่ะคะ
เห็นข้างบนใช้แบบเดียวกับประเภท 2 แสดงว่ามันอยู่ในประเภท 2 หรอคะ?
หรือประเภทไหน? หรือว่ามันต้องมีผันเป็นนั่น นู่น นี่อีก?

ไม่รู้ว่าจะถามเรื่องคำคุณศัพท์ในบทนี้ หรือจะไปถามในบทที่ 17 18 ดี
แต่ขอถามในนี้แล้วกันนะคะ เพิ่งเรียนถึงแค่ตรงนี้
เข้าใจที่ถามไหมคะ? แบบว่า...อาจจะพูดวกไปวนมานิดนึง ^^;;
Cloud 17 ตค 55 16:56

ความเห็นที่ 28
ขอสรุปเพื่อให้เข้าใจง่ายที่สุด (โดยไม่ต้องสนใจที่มาที่ไป) เลยนะครับ

การแบ่งคำคุณศัพท์เป็นออกเป็น 2 กลุ่ม (-i กับ -na) เป็นการแบ่งตามวิธีการผันรูป เช่น

1. กรณีนำไปขยายคำนาม
- กลุ่มที่หนึ่ง สามารถนำไปวางหน้าคำนามได้เลย เช่น ookii hito, chiisai hito
- กลุ่มที่สอง จะต้องเติม na ก่อน จึงจะนำไปวางหน้าคำนามได้ เช่น kirei na hito, shinsetsu na hito

2. กรณีใช้ในรูปปฏิเสธ + ขยายคำนาม
- กลุ่มที่หนึ่ง จะต้องเปลี่ยนรูปจาก -i เป็น -kunai ก่อนนำไปวางหน้าคำนาม เช่น ookikunai hito
- กลุ่มที่สอง จะต้องเติม dewanai หรือ janai ก่อนนำไปวางหน้าคำนาม เช่น shinsetsu dewanai hito หรือ shinsetsu janai hito

3. กรณีใช้จบประโยคกันเอง
- กลุ่มที่หนึ่ง สามารถจบประโยคได้เลย เช่น kare wa ookii
- กลุ่มที่สอง จะต้องเติม da เช่น kare wa shinsetsu da

4. การใช้จบประโยคกันเองในรูปปฏิเสธ
- กลุ่มที่หนึ่ง จะต้องเป็นรูปจาก -i เป็น -kunai เช่น kare wa ookikunai
- กลุ่มที่สอง จะต้องเติม dewa nai หรือ ja nai เช่น kare wa shinsetsu dewa nai หรือ kare wa shinsetsu ja nai

5. การนำไปขยายคำกริยา
- กลุ่มที่หนึ่ง เปลี่ยนรูปจาก -i เป็น -ku ก่อนนำไปวางหน้าคำกริยา เช่น ookiku naru
- กลุ่มที่สอง จะต้องเติม ni ก่อนนำไปวางหน้าคำกริยา เช่น kirei ni naru

ฯลฯ

สรุปคือ การที่เราเรียกกันว่า คำคุณศัพท์ -na นั้น
เป็นการเรียกตามกรณีที่นำไปขยายคำนามแล้วต้องเติม na ตามตัวอย่างในกรณีที่ 1 เท่านั้น

แต่หากใช้ในกรณีอื่น จะกลายเป็นรูปอื่นๆ เช่น -ni , -da เป็นต้น

ดังนั้น ผมจึงไม่พยายามเรียกว่าคำคุณศัพท์ -na เพราะจะทำให้สงสัยว่า บางครั้ง na มันหายไปไหน
แต่จะบอกว่าเป็นคำคุณศัพท์กลุ่มที่สอง ซึ่งจะต้องเติม na, ni, da ฯลฯ ให้ตรงกับฟอร์มที่นำไปใช้

ไม่ทราบว่า พอจะช่วยให้เข้าใจขึ้นบ้างไหมครับ [haha]
webmaster 17 ตค 55 18:22

ความเห็นที่ 29
แยกเป็นข้อแบบนี้ดูอ่านง่ายดี พอเข้าใจขึ้นบ้าง
แต่แล้วเราจะรู้ได้ยังไงอ่ะคะว่าตัวไหนจะเป็นกลุ่ม 1 หรือ 2
ขึ้นอยู่กับการผันและการนำไปใช้รึเปล่าคะ?
ดูท่าจะเริ่มยากแล้วสิเนี่ย [sad]
Cloud 19 ตค 55 18:18

ความเห็นที่ 30
1. กลุ่มแรกจะลงท้ายด้วย -i เสมอ เวลาเขียนก็จะมีฮิรางานะ い เป็น okurigana ตามท้าย เช่น 狭い、高い、安い、悪い、美しい、嬉しい、柔らかい、ややこしい เป็นต้น

2. กลุ่มที่สองส่วนใหญ่จะลงท้ายด้วยเสียงอื่น แต่ก็มีบางคำที่ลงท้ายด้วย -i แต่ไม่ใช่ okurigana เช่น 綺麗 (kirei), 容易 (you'i), 簡易 (kan'i), 軽快 (keikai), 懸命 (kenmei), 不本意 (fuhon'i), 不明 (fumei), 愉快 (yukai) เป็นต้น

ดังนั้น ถ้าเห็นการเขียน ก็สามารถแยกแยะได้

ยกเว้นบางคำที่จะปกติจะเขียนด้วยฮิรางานะ เช่น きれい อาจสับสนว่าอยู่ในกลุ่มไหน

ดังนั้นอาจจะจำเฉพาะคำคุณศัพท์ที่ลงท้ายด้วยเสียง -i ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ 2 ก็พอ

-> เพราะคำที่ลงท้ายด้วย -i นอกเหนือจากนั้น ก็จะเป็นกลุ่มที่ 1 ไปโดยปริยาย
-> ส่วนคำที่ไม่ได้ลงท้ายด้วยเสียง -i ก็จะเป็นกลุ่มที่ 2 ไปโดยปริยายเช่นกัน ครับ
webmaster 20 ตค 55 00:59

1<>5

pageviews 8,319,899