![]() |
|
สาระน่ารู้ ธงปลาคาร์ฟ (Koi Nobori) และประเพณีในวันของเด็กผู้ชาย | |
| |
![]() |
![]() sekku (節句) เดิมมีความหมายถึง ของที่เป็นเครื่องสักการะในวันที่มีความสำคัญเป็นพิเศษกว่าวันสำคัญอื่นๆ ในรอบปี แต่ต่อมามีความหมายเปลี่ยนไป กลายเป็นหมายความถึงวันสำคัญพิเศษนั้นโดยตรง วันที่มีความสำคัญเป็นพิเศษทั้ง 5 วัน ประกอบด้วย
วัน Tango กับการสะเดาะเคราะห์และปัดเป่าเภทภัย ![]() ในสมัยนารา (คศ.710-784) เมื่อถึงวัน Tango (5 พฤษภาคม) จะมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เพื่อขจัดปัดเป่าเภทภัยชั่วร้ายเหล่านี้ โดยการปักใบของต้นไอริซ (菖蒲 : shoubu) และต้น magwort (蓬 : yomogi) ไว้ที่ประตูบ้าน หรือดื่มสุราที่แช่ใบไอริซ เป็นต้น ในสมัยเฮอัน (คศ.794-1185) จะมีพิธีปัดเป่ารังควาน โดยเชื้อพระวงศ์จะประกอบพิธีกรรม และปักใบของต้นไอริซ และต้น mugwort ไว้ที่ชายคาในพระราชฐาน ส่วนประชาชนทั่วไป ก็จะนำใบไอริซมาขัดเป็นรัดเกล้าเพื่อประดับเป็นสิริมงคล หรือนำใบไอริซมาแขวนไว้ที่เสาบ้าน ![]() ในสมัยเอโดะ (คศ.1603-1868) ซึ่งเป็นช่วงที่มีการปกครองประเทศโดยรัฐบาลทหาร วัน Tango ได้กลายมาเป็นวันสำคัญของประเทศ ขุนนางระดับไดเมียว และฮาตาโมโตะ จะต้องมุ่งหน้าสู่วังเอโดะ เพื่อถวายสัตย์ต่อโชกุน ![]() ส่วนครอบครัวในตระกูลนักรบ เมื่อมีบุตรชายถือกำเนิด จะการประดับชุดเกราะไว้ที่หน้าบ้าน พร้อมกับประดับธงประจำตระกูลขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน และเนื่องจากการที่ประเทศญี่ปุ่นมีการปกครองโดยรัฐบาลทหาร เป็นเวลายาวนานกว่า 200 ปี ในช่วงสมัยเอโดะนี้ เสื้อเกราะและหมวกเกราะ ถือเป็นสิ่งจำเป็น และมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเด็กผู้ชาย การประดับชุดเกราะในพิธีฉลองการถือกำเนิดของเด็กผู้ชาย จึงไม่เพียงแต่ความมุ่งหวังที่จะบุตรชาย เติบโตอย่างเข้มแข็งกล้าหาญแล้ว แต่ยังถือเป็นสิ่งมงคลที่จะช่วยขจัดปัดเป่าเภทภัยให้กับเด็กผู้ชายอีกด้วย การประดับธงปลาคาร์ฟ และตุ๊กตานักรบ ![]() ครอบครัวพ่อค้า ซึ่งไม่มีธงตระกูล จึงได้สร้างธงปลาคาร์ฟ (Koi Nobori) ขึ้น ตามความเชื่อในสมัยโบราณที่สืบทอดมาจากประเทศจีน ตามสำนวนเรื่องการขึ้นสู่ประตูมังกร (登竜門 : Touryuumon) หรือ การว่ายทวนน้ำตกของปลาคาร์ฟ (鯉の滝登り : koi no taki nobori) ในประเทศจีน มีความเชื่อสืบทอดแต่โบราณว่า ที่ต้นน้ำของแม่น้ำฮวงโห เป็นช่วงที่กระแสน้ำมีความเชี่ยวกรากเป็นอย่างยิ่ง ปลาที่ว่ายทวนน้ำขึ้นไป จะถูกกระแสน้ำพัดตกลงมาตายหมดทุกตัว จะมีก็แต่เพียงปลาคาร์ฟเท่านั้น ที่สามารถว่ายทวนน้ำตกขึ้นไปได้ ปลาคาร์ฟที่ว่ายทวนขึ้นกระแสน้ำขึ้นไปถึงประตูมังกร (龍門 : ryuumon) จะกลายร่างเป็นมังกร และบินไปสู่สรวงสวรรค์ ![]() ชาวญี่ปุ่นจึงประดับธงปลาคาร์ฟ เพื่อแจ้งต่อเทพเจ้าบนสรวงสวรรค์ว่า มีบุตรชายถือกำเนิดในบ้านของตนแล้ว ขอให้เทพเจ้าปกป้องคุ้มครอง พร้อมกับเป็นการอธิษฐานให้บุตรชายของตน เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง และประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต เช่นเดียวกับปลาคาร์ฟที่ว่ายทวนน้ำตกได้สำเร็จ และนอกจากการประดับธงปลาคาร์ฟแล้ว ชาวบ้านก็ยังสร้างตุ๊กตานักรบ และประดับไว้ในบ้าน เพื่อเลียนแบบครอบครัวในตระกูลนักรบอีกด้วย ธงปลาคาร์ฟในสมัยเอโดะ ทำจากกระดาษญี่ปุ่น และวาดเป็นรูปปลาคาร์ฟ ต่อมาในสมัยราชวงศ์ไทโช (คศ.1912-1926) ได้เปลี่ยนมาเป็นผ้าฝ้าย เพื่อให้แข็งแรงทนทานขึ้น และประมาณกลางราชวงศ์โชวะ คือประมาณต้นทศวรรษ 1960 เป็นต้นมา ธงปลาคาร์ฟก็เปลี่ยนมาใช้เส้นไยสังเคราะห์ เพื่อให้มีสีสรรสวยงามและคงทน แม้จะตากแดดตากฝนเป็นเวลานานก็ตาม ![]() ธงปลาคาร์ฟดั้งเดิม จะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่อยู่บนสุด จะเป็นธงพู่ปลิว มี 5 สี ซึ่งแสดงถึงธาตุทั้ง 5 ชนิด และถัดจากนั้นจะเป็นธงปลาคาร์ฟสีสรรต่างๆตั้งแต่ 3 ตัวขึ้นไป ปลาคาร์ฟตัวใหญ่สีดำจะหมายถึงพ่อ ส่วนสีแดงจะหมายถึงลูกและคนในครอบครัว ปัจจุบัน ธงปลาคาร์ฟนิยมประดับในช่วงเดือนปลายเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีกระแสลมที่เหมาะสม แลดูสวยงาม ส่วนช่วงที่เก็บธง จะเลือกวันที่อากาศแห้งและแจ่มใส เพื่อให้สามารถเก็บธงปลาคาร์ฟได้ในสภาพที่แห้งสนิทอย่างเรียบร้อย การรับประทานขนมบะจ่าง ขนมโมจิห่อใบโอ๊ค และการแช่น้ำร้อน ![]() ในวัน Tango จะมีการรับประทาน chimaki (คล้ายกับขนมบะจ่าง) ตามประเพณีจีน และทานขนมโมจิห่อใบโอ๊ค (柏餅 : kashiwa mochi) การสวมรัดเกล้าที่ร้อยขึ้นจากใบ mugwort การดื่มเหล้าที่แช่ใบไอริซ และอาบน้ำร้อนที่แช่ใบไอริซอีกด้วย ![]() ส่วนใบไอริช จะนำมาแช่ในอ่างอาบน้ำ เพื่อขจัดปัดเป่าเภทภัย ทำให้เลือดลมหมุนเวียน และคลายความเครียดได้อีกด้วย การกำหนดวันเด็กของประเทศญี่ปุ่น ในปี พศ. 2491 ได้มีการเสนอให้มีการกำหนด "วันเด็ก" เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ รัฐสภาจึงได้กำหนดให้วัน tango หรือวันที่ 5 พฤษภาคม ให้เป็น "วันเด็ก" ของประเทศญี่ปุ่น ตามความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ ![]() นอกจากนี้ วันที่ 5 พฤษภาคม ยังเป็นวันที่เป็นส่วนประกอบหนึ่งของ Golden Week ซึ่งเป็นวันหยุดยาวของญี่ปุ่น คือ
วันเด็กของไทย ![]() แต่ต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม ตั้งแต่ปี พศ.2508 มาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันวันเด็กในประเทศต่างๆทั่วโลก ส่วนใหญ่จะกำหนดให้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยจะกำหนดเป็นวันที่ชัดเจน แต่ก็มีบ้าง ที่กำหนดในลักษณะเดียวกับประเทศไทย เช่น วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม (สวีเดน) หรือวันอาทิตย์แรกของเดือนกรกฎาคม (ออสเตรเลีย) เป็นต้น ส่วนการให้คำขวัญในวันเด็กของทุกๆปี เช่นเดียวกับประเทศไทย อาจจะไม่ค่อยมีประเทศที่ปฏิบัติเช่นนี้มากนัก Webmaster 22 เมษายน 2555
|