อ่าน 274,025 ครั้ง
เป็นคำอิสระที่สามารถผันได้ สามารถใช้เป็นคำแสดง (述語 : jutsugo) ในประโยค เพื่อบอกเล่าการกระทำ อาการ หรือการมีอยู่
คำกริยาในสถานะปกติ จะลงท้ายด้วยเสียง 「ウ : u」 เสมอ เช่น
笑う : warau : หัวเราะ
書く : kaku : เขียน
寝る : neru : นอน
1. อกรรมกริยา ( 自動詞 : jidoushi )
เป็นคำแสดงกริยาหรือการเคลื่อนไหวที่เกิดผลอยู่ประธานเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลบุคคลอื่นหรือสิ่งอื่น ดังนั้น ในประโยคจึงจะไม่มีคำช่วย 「を」 ที่เป็นคำช่วยที่ชี้กรรมของประโยค ตัวอย่างเช่น
雨が降る : ame ga furu : ฝนตก
花が咲く : hana ga saku : ดอกไม้บาน
2. สกรรมกริยา ( 他動詞 : tadoushi )
เป็นคำแสดงกริยาที่ไม่ได้ส่งผลไปยังประธาน แต่ผลของกริยาหรือการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น จะเกิดกับบุคคลอื่นหรือสิ่งอื่นโดยตรง หรือเป็นการทำหรือสร้างให้เกิดขึ้น ตามปกติจะใช้คำช่วย 「を」เพื่อชี้ว่าผลของกริยานั้นเกิดขึ้นกับบุคคลหรือสิ่งของใด เช่น
本を読む : hon o yomu : อ่านหนังสือ
窓を開ける : mado o akeru : เปิดหน้าต่าง
3. กริยาแสดงความเป็นไปได้ ( 可能動詞 : kanou doushi)
เป็นคำกริยาที่ผันรูปเพื่อแสดงความหมายว่าสามารถทำ ... ได้ โดยคำกริยาที่จะผันเช่นนี้ได้ จะต้องเป็นคำกริยาในกลุ่มที่ 1 เท่านั้น ซึ่งเมื่อผันเสร็จแล้ว คำกริยาที่เกิดขึ้นใหม่จะจัดอยู่ในกลุ่มที่ 2 เช่น
読む : yomu : อ่าน → 読める : yomeru : อ่านได้
行く : iku : ไป → 行ける : ikeru : ไปได้
หมายเหตุ : คำกริยากลุ่มที่ 1 และ 2 เป็นการจัดกลุ่มตามวิธีการผันคำ ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ตอนท้ายของบทนี้
4. กริยาสนับสนุน ( 補助動詞 : hojo doushi หรือ 形式動詞 : keishiki doushi )
มีความหมายของคำเดิมเหลืออยู่น้อยมาก ใช้เป็นเพียงคำเสริมในประโยคเท่านั้น ใช้ร่วมกับคำว่า ~て หรือ ~で เช่น
私は日本人である : watashi wa nihonjin de aru : ฉันเป็นคนญี่ปุ่น
※ ある เป็นคำกริยาแปลว่า มี ซึ่งไม่เหลือความหมายเดิมอยู่ในประโยค
風が吹いている : kaze ga fuite iru : ลมกำลังพัด
※ いる เป็นคำกริยาแปลว่า อยู่ ซึ่งไม่เหลือความหมายเดิมอยู่ในประโยค
นอกจากนี้ คำกริยาบางคำจะใช้แสดงความหมายเพื่อยืนยัน หรือแสดงท่าที หรือแสดงความมุ่งมั่นในทำกริยานั้น เช่น
ある、いく、いる、おく、くる、みる、もらう
ยกตัวอย่างเช่น
勉強をしておく : benkyou o shite oku : จะเรียนไว้
勉強してみる : benkyou shite miru : จะลองเรียนดู
คำกริยาสามารถผันรูป และใช้กับคำกริยานุเคราะห์ (jodoushi) เพื่อให้เกิดความหมายใหม่ได้
【คำกริยา】 ⇒ 【ผันรูป】 + 【คำกริยานุเคราะห์】 ⇒ 【เกิดความหมายใหม่】 |
คำกริยาสามารถผันได้ 6 รูปแบบ ดังนี้
1. ฟอร์มที่ยังไม่เสร็จ ( 未然形 : mizenkei )
เป็นการผันเพื่อให้เกิดความในเชิงปฏิเสธ ให้กระทำ หรือชักชวน เป็นต้น โดยใช้ร่วมกับคำกริยานุเคราะห์ (jodoushi) คือ
ない、せる、させる、れる、られる、う、よう
2. ฟอร์มที่ตามด้วยคำแสดง (連用形 : renyoukei)
เป็นการผันคำกริยาเพื่อใช้นำหน้าคำแสดง (yougen) เพื่อใช้ในการจบท้ายประโยค โดยจะใช้ร่วมกับคำกริยานุเคราะห์ (jodoushi) คือ
ます、た、だ
3. ฟอร์มจบ (終止形 : shuushikei)
เป็นต้นศัพท์ก่อนการผัน จึงไม่ต้องใช้ร่วมกับคำกริยานุเคราะห์ จะใช้ในการจบท้ายประโยค และใช้เป็นรูปแบบในพจนานุกรม
4. ฟอร์มที่ตามด้วยคำหลัก (連体形 : rentaikei)
เป็นการผันคำกริยาเพื่อใช้นำหน้าคำหลัก (taigen) เช่น
とき
หรือในภาษาเก่าจะผันเพื่อใช้จบประโยค โดยใช้ร่วมกับคำช่วยเกี่ยวเนื่อง (kakarijoshi) คือ
ぞ、なむ、や、か
หรือใช้ร่วมกับคำช่วย คือ
か、ぞ
6. ฟอร์มสมมุติ (仮定形 : kateikei)
เป็นการผันคำกริยาให้มีความหมายสมมุติที่เป็นเหตุเป็นผลกับประโยคต่อท้าย โดยจะใช้ร่วมกับคำกริยานุเคราะห์ (jodoushi) คือ
ば
7. ฟอร์มคำสั่ง (命令形 : meireikei)
เป็นการผันคำกริยาให้มีความหมายเป็นการสั่ง
ในการผันคำกริยาให้อยู่ในฟอร์ม 6 แบบข้างต้น สามารถจำแนกคำกริยาออกเป็น 5 กลุ่ม ตามวิธีการผัน ดังนี้
1. ผัน 5 ขั้น ( 五段活用 : godan katsuyou )
คือกลุ่มคำกริยาที่สามารถผันได้ 5 เสียง
เช่น คำว่า 行く (iku : ไป) สามารถผันได้ครบทั้ง 5 เสียง คือ เสียง a, i, u, e, o
2. ผัน 1 ขั้น ตัวบน ( 上一段活用 : kami ichidan katsuyou )
คือกลุ่มคำกริยาที่สามารถผันได้เพียง 1 เสียง ซึ่งเป็นเสียง i เช่น 見る (mi-ru)
3. ผัน 1 ขั้น ตัวล่าง ( 下一段活用 : shimo ichidan katsuyou )
คือกลุ่มคำกริยาที่สามารถผันได้เพียง 1 เสียง ซึ่งเป็นเสียง e เช่น 食べる (ta-be-ru)
4. ผันคำพิเศษแถว ka ( カ変活用 : ka hen katsuyou )
ซึ่งมีเพียง 1 คำที่ผันในวิธีพิเศษ คือ 来る (kuru : มา)
5. ผันคำพิเศษแถว sa ( サ変活用 : sa hen katsuyou )
ซึ่งมีเพียง 1 คำที่ผันในวิธีพิเศษ คือ する (suru : ทำ)
เนื่องจากวิธีการผันคำกริยา 6 รูปแบบ (Mizenkei, Renyoukei ....) และการจัดกลุ่มคำแบบ 5 ขั้น 1 ขั้น (Godan ichidan) ตามหลักไวยากรณ์ญี่ปุ่นที่อธิบายข้างต้น มีความสลับซับซ้อน และยากลำบากในการจดจำ
ดังนั้น ในการเรียนการสอนภาษาญี่ปุ่นให้กับชาวต่างชาติ ซึ่งใช้อักษรโรมาจิเป็นหลัก (คือเขียนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ) จึงมักใช้วิธีดังนี้
1. การจัดกลุ่ม
2. วิธีการผัน
※ ข้อยกเว้น คำกริยา 行く (iku) ผันในรูป ta form / te form เป็น 行った (itta) และ 行って (itte) ซึ่งต้องแยกจำเป็นพิเศษ
※ การผันคำกริยา มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการพูดภาษาญี่ปุ่นที่เป็นสำนวนยาวๆ หรือในกรณีที่ต้องบ่งบอกความรู้สึก ซึ่งตารางข้างต้นนี้ มีหลักเกณฑ์ในการผันคำที่ค่อนข้างชัดเจน ผู้เรียนจึงควรจดจำหลักเกณฑ์ และฝึกฝนให้สามารถผันคำกริยาได้อย่างถูกต้องทุกรูปแบบ
กลุ่มที่ 1 | กลุ่มที่ 2 |
切る (kiru : ตัด) | 着る (kiru : สวม) |
帰る (kaeru : กลับ) | 変える (kaeru : เปลี่ยน) |
要る (iru : ต้องการ) | 居る (iru : อยู่) |
練る (neru : นวด) | 寝る (neru : นอน) |
ดังนั้น การผันคำกริยาข้างต้น จึงต้องผันให้ถูกต้องตามกลุ่มด้วย เช่น
pageviews 2,669,741